Wednesday, June 24, 2015

ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ทวีปแอฟริกา



ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ทวีปแอฟริกา

ประวัติความเป็นมาของทวีปแอฟริกา

            ถึงแม้ว่าทวีปแอฟริกา  จะเป็นที่รู้จักกันทั่วไปมาก่อน ในกลุ่มชาวยุโรปว่าได้เป็น  ทวีปมืดหรือกาฬทวีป  (ทวีปมืด) ก็ตาม
            แต่บริเวณตอนเหนือของทวีป  เคยเป็นดินแดนที่ยอมรับกัน ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่เก่าที่สุด 
            บริเวณดังกล่าวได้แก่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของประเทศยิอิปต์
            อารยธรรมอียิปต์เริ่มต้นเมื่อประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสต์กาลความเจริญของอียิปต์บางอย่างมีส่วน เสริมสร้างและเป็นรากฐานความเจริญของอารยธรรมยุโรปด้วย 
            ผลงานทางด้านศิลปวัฒนธรรม ในสมัย​​เดียวกัน 
            ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะหรือวัฒธรรมวิวัฒนาการของปกครองของชาวอียิปต์ มาเป็นสองอาณาจักรและรวมเป็นประเทศ 
            ที่เน้นการดึงอำนาจมาสู่ศูนย์กลาง 
            มีผลทำให้อียิปต์มีระบบการปกครอง ที่มั่นคงอย่างยิ่งในสมัยโบราณชาวอียิปต์ เป็นชนชาติแรกที่ให้มรดกแก่โลกทางด้านวัฒนธรรมภาษา กล่าวคือ  เป็นชนชาติแรกที่ประดิษฐ์ตัวอักษร

            ตัวอักษรอียิปต์รุ่นแรก คืออักษรเฮียโรกลิฟฟิค  (Hieroglyphic)  มีลักษณะเป็นอักษรภาพ 
            ความเชื่อในศาสนาโดยเฉพาะความเชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ซักนำให้ชาวอียิปต์ค้นคว้าการทำมัมมี่  เพื่อเก็บรักษาศพมิให้เน่าเปื่อย เพื่อรอการกลับคืนมาของวิญญาณ 
            คือการสร้างพีระมิดซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บศพของฟาโรห์
            นอกจากนี้ชาวอียิปต์ยังมีความสามารถทางด้านการชลประทานเลขคณิตเรขาคณิตและการแพทย์อีกด้วย
            อาณาจักรอียิปต์โบราณ จนกระทั่งระยะหลังได้ถูกต่างชาติสับเปลี่ยนกันเข้ามาครอบครองอาทิเช่นอัลซีเรียนเปอร์เซียนกรีกโรมัน 
             ใน ค.ศ. 1185
            ส่วนการสำรวจภายในทวีปแอฟริกาเริ่มมีอย่าจริงจังในคริสต์ศตวรรษที่ 19  ภายหลังการปฎิวัติอุตสาหกรรม มาป้อนโรงงานอุตสาหกรรม 
            แหล่งเชื้อเพลิงใหม่คือน้ำมันแหล่งแร่ทองคำรวมทั้งแหล่งระบายพลเมืองที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว 
            ชาวยุโรปจึงมีความเห็นว่า เพื่อจับจองไว้เป็นอาณานิคม 
            แทนที่จะเดินทางสำรวจชายฝั่งทะเลอย่างที่เคยกระทำมา เมื่อครั้งเริ่มแสวงหาเส้นทางเดินเรือไปยังทวีปเอเซีย 
            คริสต์ศตวรรษที่ 15-16 เบลเยียมเป็นชนชาติแรกที่เริ่มเข้าไปบุกเบิก (คองโก) ไว้ใน ค.ศ. 1876
            บรรดาประเทศในยุโรปทั้งหลาย อังกฤษและฝรั่งเศสนับว่าเป็นคู่แข่งขันสำคัญในการยึดครองดินแดนในทวีปแอฟริกา 
            ดินแดนของฝรั่งเศสส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  ไปจนถึงทะเลทรายและฮารา 
            ส่วนอังกฤษได้เข้าครอบครองบริบริเวณแอฟริกาทางเหนือ  ตะวันตก ตะวันออกและตอนใต้ ซึ่งส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรมีค่า

            นอกจากนี้ประเทศอื่น ๆ เช่นอิตาลีสเปนเยอรมันโปรตุเกสได้พากันยึดครองดินแดนต่าง ๆ 2 แห่งคือไลบีเรียและเอธิโอเปียเท่านั้น
            การแข่งขันในการแสวงหาอาณานิคมในทวีปแอฟริการดังกล่าวนำไปสู่ความขัดแย้งกัน  ระหว่างประเทศมหาอำนาจ และเป็นสาเหตุหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1914-1918)
            นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1939-1945) เป็นต้นมาประเทศต่าง ๆ  ในทวีปแอฟริกา ต่างก็ดิ้นรนในการเรียกร้องเอกราชกันเรื่อยมา และต่างก็ประสบความสำเร็จในการปกครองตนเอง
            อย่างไรก็ตาม การที่แอฟริกาเป็นทวีปใหญ่ที่ประกอบด้วยประเทศใหญ่เล็กมากมาย 
            ๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันปัญหาสำคัญที่สุดคือปัญหาทางเศรษฐกิจสังคมที่นำไปสู่​​การขาดความมั่นคงทางการเมืองในหลายประเทศ 
            คือนโยบายอะพาร์ดไฮต์ (ผิว) ในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ที่รัฐบาลเป็นคนผิวขาวและชนผิวดำไม่ได้รับความเป็นธรรม

No comments:

Post a Comment