
ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ทวีปแอฟริกา
ประวัติความเป็นมาของทวีปแอฟริกา
ถึงแม้ว่าทวีปแอฟริกา จะเป็นที่รู้จักกันทั่วไปมาก่อน ในกลุ่มชาวยุโรปว่าได้เป็น ทวีปมืดหรือกาฬทวีป (ทวีปมืด) ก็ตาม
แต่บริเวณตอนเหนือของทวีป เคยเป็นดินแดนที่ยอมรับกัน ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่เก่าที่สุด
บริเวณดังกล่าวได้แก่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของประเทศยิอิปต์
อารยธรรมอียิปต์เริ่มต้นเมื่อประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสต์กาลความเจริญของอียิปต์บางอย่างมีส่วน เสริมสร้างและเป็นรากฐานความเจริญของอารยธรรมยุโรปด้วย
ผลงานทางด้านศิลปวัฒนธรรม ในสมัยเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะหรือวัฒธรรมวิวัฒนาการของปกครองของชาวอียิปต์ มาเป็นสองอาณาจักรและรวมเป็นประเทศ
ที่เน้นการดึงอำนาจมาสู่ศูนย์กลาง
มีผลทำให้อียิปต์มีระบบการปกครอง ที่มั่นคงอย่างยิ่งในสมัยโบราณชาวอียิปต์ เป็นชนชาติแรกที่ให้มรดกแก่โลกทางด้านวัฒนธรรมภาษา กล่าวคือ เป็นชนชาติแรกที่ประดิษฐ์ตัวอักษร
ตัวอักษรอียิปต์รุ่นแรก คืออักษรเฮียโรกลิฟฟิค (Hieroglyphic) มีลักษณะเป็นอักษรภาพ
ความเชื่อในศาสนาโดยเฉพาะความเชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ซักนำให้ชาวอียิปต์ค้นคว้าการทำมัมมี่ เพื่อเก็บรักษาศพมิให้เน่าเปื่อย เพื่อรอการกลับคืนมาของวิญญาณ
คือการสร้างพีระมิดซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บศพของฟาโรห์
นอกจากนี้ชาวอียิปต์ยังมีความสามารถทางด้านการชลประทานเลขคณิตเรขาคณิตและการแพทย์อีกด้วย
อาณาจักรอียิปต์โบราณ จนกระทั่งระยะหลังได้ถูกต่างชาติสับเปลี่ยนกันเข้ามาครอบครองอาทิเช่นอัลซีเรียนเปอร์เซียนกรีกโรมัน
ใน ค.ศ. 1185
ส่วนการสำรวจภายในทวีปแอฟริกาเริ่มมีอย่าจริงจังในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายหลังการปฎิวัติอุตสาหกรรม มาป้อนโรงงานอุตสาหกรรม
แหล่งเชื้อเพลิงใหม่คือน้ำมันแหล่งแร่ทองคำรวมทั้งแหล่งระบายพลเมืองที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ชาวยุโรปจึงมีความเห็นว่า เพื่อจับจองไว้เป็นอาณานิคม
แทนที่จะเดินทางสำรวจชายฝั่งทะเลอย่างที่เคยกระทำมา เมื่อครั้งเริ่มแสวงหาเส้นทางเดินเรือไปยังทวีปเอเซีย
คริสต์ศตวรรษที่ 15-16 เบลเยียมเป็นชนชาติแรกที่เริ่มเข้าไปบุกเบิก (คองโก) ไว้ใน ค.ศ. 1876
บรรดาประเทศในยุโรปทั้งหลาย อังกฤษและฝรั่งเศสนับว่าเป็นคู่แข่งขันสำคัญในการยึดครองดินแดนในทวีปแอฟริกา
ดินแดนของฝรั่งเศสส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไปจนถึงทะเลทรายและฮารา
ส่วนอังกฤษได้เข้าครอบครองบริบริเวณแอฟริกาทางเหนือ ตะวันตก ตะวันออกและตอนใต้ ซึ่งส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรมีค่า
นอกจากนี้ประเทศอื่น ๆ เช่นอิตาลีสเปนเยอรมันโปรตุเกสได้พากันยึดครองดินแดนต่าง ๆ 2 แห่งคือไลบีเรียและเอธิโอเปียเท่านั้น
การแข่งขันในการแสวงหาอาณานิคมในทวีปแอฟริการดังกล่าวนำไปสู่ความขัดแย้งกัน ระหว่างประเทศมหาอำนาจ และเป็นสาเหตุหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1914-1918)
นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1939-1945) เป็นต้นมาประเทศต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกา ต่างก็ดิ้นรนในการเรียกร้องเอกราชกันเรื่อยมา และต่างก็ประสบความสำเร็จในการปกครองตนเอง
อย่างไรก็ตาม การที่แอฟริกาเป็นทวีปใหญ่ที่ประกอบด้วยประเทศใหญ่เล็กมากมาย
ๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันปัญหาสำคัญที่สุดคือปัญหาทางเศรษฐกิจสังคมที่นำไปสู่การขาดความมั่นคงทางการเมืองในหลายประเทศ
คือนโยบายอะพาร์ดไฮต์ (ผิว) ในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ที่รัฐบาลเป็นคนผิวขาวและชนผิวดำไม่ได้รับความเป็นธรรม
No comments:
Post a Comment